ซานเหอลิ่ง ~ โจวจื่อซู
เมื่อวันก่อนเล่าถึงความดราม่าของ “เวินเค่อสิง” ในนักรบพเนจรสุดขอบฟ้าที่อยากรั้งใครบางคนให้อยู่ไปแล้ว
วันนี้จะพูดถึงคนที่ถูกรั้งไว้บ้าง คนๆ นั้นคือ “โจวจื่อซู” อดีตหัวหน้าเทียนชวงรูปงามที่มีวรยุทธ์ล้ำเลิศ ลงมือเฉียบขาดแม้เป็นลูกเด็กเล็กแดงก็ไม่ละเว้น
ดูเหมือนเรื่องนี้จะมีแต่ผู้ชายรว้ายๆ นะคะ ^^ แต่ความจริงโจวจื่อซูไม่ได้มีมุมร้ายกาจอย่างเดียว เขายังมีมุมรักครอบครัว น้อง อาจารย์ เพื่อนฝูง ลูกศิษย์ มีมุมตั้งใจทำงานและซื่อตรงต่อหน้าที่ เมื่อต้องฆ่า…แม้ไม่อยากทำแต่ก็ทำ
โหดใช่ไหมคะ ถูกต้องค่ะ…ทำตัวได้โหดมาก แต่คนแบบโจวจื่อซูนี่เองที่ยุติธรรมพอที่จะลงโทษตัวเองด้วย
เมื่อทุกคนที่เขารักจากโลกนี้ไป โจวจื่อซูขอถอนตัวออกจากเทียนชวงด้วยการใช้ตะปูฝังลงบนร่างกายตามกฎ ทุกครั้งที่พิษจากตะปูกำเริบเขาจะเจ็บปวดทรมานมาก วรยุทธ์ที่เคยมีหายไปกว่าครึ่ง แต่โจวจื่อซูคิดว่าสมควรแล้วกับบาปกรรมที่เคยทำไว้ ดีซะอีก…ตายไปโทษในนรกจะได้น้อยลง
คนไม่ดีที่ไหนจะคิดได้อย่างนี้ รู้ว่าถูกผิดคืออะไร…ต้องการชดใช้ นับว่าเขาเป็นลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดงคนหนึ่ง ^^
บุคลิกแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ แม้จะอยู่ในสภาพโกโรโกโสแต่ไม่น่าแปลกใจเลยที่เวินเค่อสิงจะสะดุดตาในความโดดเด่นเป็นธรรมชาติ
หน้าตาอาจจะปลอมแปลงตกแต่งได้ แต่บุคลิก สมอง และความมั่นใจไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างง่ายๆ ในวันสองวัน
เหล่าเวินตาถึง ณ จุดนั้น และใจเสียในจุดต่อมา เมื่อได้รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ได้อีกไม่นาน เขาถึงกับรำพึงรำพันว่ารั้งคนที่อยากให้อยู่ด้วยไม่ได้ ก่อนจะจบประโยคว่า “โชคดีจริงๆ ที่ข้ายังไม่ได้ชอบเจ้าอย่างจริงจัง”
…หลอกตัวเองเสร็จแล้วไปเดินตากฝนต่อ มีบ่นกับน้อง “กู้เซียง” ที่มากางร่มให้ด้วยว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วข้าจะคบหาเขาไปทำไม”
ใช่ไหมคะ จะคบไปทำไม คบแล้วต้องจากกัน ทำไมต้องเสียเวลาคบด้วย ^^
ครั้งหนึ่ง…โจวจื่อซูเคยพูดไว้ว่า “บนโลกใบนี้ใช่ว่าทุกคนจะเป็นคนดี หากคนส่วนใหญ่ล้วนอยากเป็นคนดี ถึงแม้จะไม่ใช่คนดีโดยแท้ แต่ก็พยายามแสร้งทำเป็นคนดีอย่างสุดความสามารถ
เพราะเหตุใดนั้น…อาจเป็นเพราะมีเพียงการเป็นคนดีเท่านั้น ถึงจะมีคนมากมายอยากอยู่กับเจ้า อยากดีต่อเจ้า
เจ้าคิดดู..หากคนผู้หนึ่งมีเพียงตนเองทั้งชีวิต ไม่สนิทสนม ไม่มีความรู้สึกกับผู้ใด เช่นนั้นจะไม่น่าสงสารไปหน่อยหรือ…”
โจวจื่อซูเข้าใจว่าทุกคนบนโลกใบนี้แม้จะไม่ใช่คนดีทั้งหมด แต่ไม่มีใครหรอกที่อยากจะเป็นคนไม่ดี ทุกคนก็อยากจะทำสิ่งดีๆ เพื่อให้เป็นที่รักกันทั้งนั้น
เขาอาจเคยทำเรื่องโหดร้ายมามากก็จริง แต่เพราะเป็นคนรู้จักผิดชอบชั่วดีจึงรู้สึกสำนึกผิดและยอมรับโทษตายเพื่อจะได้หลุดพ้นจากภาระหน้าที่
คำว่า “รู้จักผิดชอบชั่วดี” นี่สำคัญมากนะคะ ^^ สำคัญกว่าการ “พยายามทำตัวเป็นคนดี” เสียอีก เพราะเมื่อไหร่ที่คนๆ หนึ่งรู้ว่าผิดคืออะไร ถูกคืออะไร คนๆ นั้นจะละอายใจเมื่อต้องทำความผิด
เมื่อไม่ทำผิด…สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความถูกต้องโดยอัตโนมัติ
จะว่าไป…โจวจื่อซูเป็นคนจิตใจดีที่อ่อนโยนมาก เพราะอ่อนโยน…ถึงรู้จักสะเทือนใจเมื่อทำร้ายคนอื่น
เพราะ “ต้อง” ทำร้ายคนอื่น เขาถึงเข้าใจความรู้สึกของคนที่อยากทำความดี..แต่ทำไม่ได้
โจวจื่อซูป่วยกายแต่ใจไม่ป่วย เขาสังเกตเห็น “อาการทางใจ” ของเวินเค่อสิงที่ผีเข้าผีออกเป็นระยะๆ
อดีตของเวินเค่อสิงทำให้เค้าคิดว่ามนุษย์บนโลกใบนี้ล้วนเต็มไปด้วยความหลอกลวง ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
อาจเพราะเคยผ่านอดีตที่เจ็บปวดมากมาก่อน…โจวจื่อซูจึงพยายามจะดึงเวินเค่อสิงให้ออกมาจากความคิดในมุมมืด เขา “ยังเชื่อ” ว่าความดีงามคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนาอยากจะเป็น
ไม่สายไปหรอกที่จะปล่อยวางอดีต การปลดปล่อยความคิดเคียดแค้นคือการปลดปล่อยตัวเองด้วยเช่นกัน
งานนี้เลยไม่รู้ว่าใครรั้งใครกันแน่ ^^
คนๆ หนึ่ง…อยากรั้งอีกฝ่ายให้อยู่ใช้ชีวิตด้วยกัน
ส่วนคนๆ นั้น…อยากรั้งให้อีกฝ่ายหลุดพ้นจากมุมมืดในชีวิต
เรื่องบางเรื่อง คนบางคน จะสายเกินไปหรือไม่…
ก็ยังควรค่าแก่การรั้งไว้ว่าไหมคะ 😉❤️
©2021 สนามอ่านเล่น All rights reserved.
เขียนได้น่าอ่านมาก ❤️