ซานเหอลิ่ง ~ เวินเค่อสิง
“อยากรั้งใครบางคนให้อยู่…ก็สายเกินไป”
เป็นประโยคดราม่าเมื่อคืนของ “เวินเค่อสิง” ในเรื่อง “นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า” ที่ดราม่าจนต้องเขียนถึง ตอนนี้เวินเค่อสิงรู้แล้วว่า “โจวจื่อซู” จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
เวินเค่อสิงนั้นเป็นประมุขหุบเขามารที่มีวิทยายุทธ์ล้ำเลิศ มีดีทั้งหน้าตาและคารม เพียงแต่ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มและคำพูดที่ดีงามเหล่านั้น ภายในจิตใจกลับเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
พ่อแม่ของเค้าถูกฆ่า เวินเค่อสิงมีวัยเด็กที่เจ็บปวด การพยายามมีชีวิตรอดเพื่ออยู่รอวันล้างแค้นทำให้เขากลายเป็นคนเหี้ยมโหดและกล้าทำร้ายคนอื่นโดยไม่รู้สึกผิดอะไร
ช่วยไม่ได้…คนไม่ดีเหล่านั้นต้องได้เรียนรู้บ้างว่าการได้เจอคนที่เลวร้ายกว่ามันเป็นยังไง
โลกของเวินเคอสิงเป็นสีดำสนิท เขาใช้ชีวิตอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมจนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอกับโจวจื่อซูโดยบังเอิญและเกิดเป็นความรู้สึกถูกชะตาขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
เวินเค่อสิงคอยช่วยเหลือและติดตามโจวจื่อซูไปในทุกๆ แห่ง ความจริงใจที่มีให้ท่วมท้นออกมาจนคนรอบข้างสัมผัสได้ ถ้าเป็นการลงทุน เวินเค่อสิงก็เทหมดหน้าตัก เขาให้ทั้งเวลา ความสนิทสนม ความช่วยเหลือ เพราะหวังอยากอยู่กับคนๆ นี้ตลอดไป
ในซีรีส์เมื่อเวินเค่อสิงรู้ว่าโจวจื่อซูเป็นคนป่วยใกล้ตายเค้าทั้งเจ็บปวดและผิดหวัง คนที่โตมาในสถานที่อันมืดมิด เจอแต่คนที่มืดมน วันหนึ่งเมื่อได้เจอคนที่ทำให้โลกนี้กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง กลับกลายเป็นวันที่ได้รู้ว่าคนๆ นั้นกำลังจะ “ไม่อยู่”
เวินเค่อสิงตัดพ้อโจวจื่อซูที่ไม่ยอมรักษาตัวว่า
“ช่างน่าขันนัก ตอนยังเด็กข้าไม่ฝึกวิชาเพราะห่วงเล่น ชอบโกรธท่านพ่อท่านแม่ที่พร่ำสอนว่า ยามเยาว์เกียจคร้าน..แก่ชรากลายเป็นขอทาน คิดจะฝึกก็คงสายไป
ข้ายังย้อนท่านไปว่า ถ้าโตแล้วอยากขโมยไข่ดีดลูกหินก็สายไปแล้วเหมือนกัน
ที่แท้…ชั่วชีวิตนี้ของข้า ไปๆ มาๆ ยังคงไม่ถูกเวลาอยู่เสมอ ตอนอยากเล่นกลับไม่ได้เล่น ตอนอยากฝึกวิทยายุทธ์กลับไม่มีใครสอน (พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว) อยากได้อะไรก็ไม่ได้
อยากรั้งใครสักคนให้อยู่…ก็สายเกินไป”
คือพ่อดราม่ายิ่งกว่าคนที่กำลังจะตายอีกค่ะ 🥲
#ต้องถามโจวจื่อซูถึงจะรู้ว่าทำไมถึงสายเกินไป
#ไว้มาต่อนะคะ
©2021 สนามอ่านเล่น All rights reserved.